analyticstracking
ผลสำรวจเรื่อง “การท่องเที่ยวเมืองไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ”
ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.8 เห็นว่ามติผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ก่อนจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น
จะเกิดผลดีทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เกิดการสร้างงานสร้างรายได้
โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 72.0 เชื่อคนจะออกมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 จะปฏิบัติตัวเหมือนเดิมใส่หน้ากากอนามัยทุกที่ทุกครั้งที่ไป
ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.4 มองว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว จะช่วยให้คนออกมาเที่ยวเพิ่มขึ้น
ส่วนใหญ่ร้อยละ 76.4 กังวลราคาน้ำมันเพิ่มเรื่อยๆ จะส่งผลต่อการออกมาท่องเที่ยว
 
 
 
ดีมาก (5)
ดี (4)
ปานกลาง (3)
พอใช้ (2)
แย่ (1)
 
 
                  กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพสำรวจความคิดเห็น
ประชาชนเรื่อง “การท่องเที่ยวเมืองไทยจะเป็นอย่างไร เมื่อโควิด-19 จะกลาย
เป็นโรคประจำถิ่น” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,177 คน
พบว่า
 
                  เมื่อถามว่าคิดอย่างไรกับมติผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เช่น
การสวมหน้ากากอนามัย เปิดสถานบันเทิงถึงตี 2 เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ก่อนจะ
กลายเป็นโรคประจำถิ่นพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 71.8 คิดว่าจะเกิดผลดี
โดยในจำนวนนี้ร้อยละ 49.9 เห็นว่าน่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น รองลงมาร้อยละ
48.5 เห็นว่าน่าจะทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ และร้อยละ 41.6 เห็นว่า
จะทำให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตแบบปกติ
ขณะที่ร้อยละ 28.2 คิดว่าจะเกิดผลเสียกลัวว่า
จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
 
                  ทั้งนี้เมื่อถามว่ามติผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ก่อนจะกลาย
เป็นโรคประจำถิ่น จะทำให้คนอยากออกมาท่องเที่ยวมากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่
ร้อยละ 72.0 เห็นว่าจะทำให้อยากออกมาท่องเที่ยวค่อนข้างมากถึงมากที่สุด

ขณะที่ร้อยละ 28.0 เห็นว่าค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
 
                  โดยเมื่อถามต่อว่าจะใส่หน้ากากอนามัยตลอดทุกที่ที่ไปหรือไม่ หลังมีมติผ่อนคลายการสวมหน้ากาก
อนามัยตามความสมัครใจ ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 คิดว่าจะปฏิบัติตัวเหมือนเดิมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง
ขณะที่มี
เพียงร้อยละ 7.2 ที่คิดว่าจะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วเพราะการแพร่ระบาดลดลง
 
                  สำหรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง จะช่วย
กระตุ้นให้คนออกมาท่องเที่ยวได้มากน้อยเพียงใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 64.4 เห็นว่าจะช่วยได้ค่อนข้างมากถึงมาก
ที่สุด
ขณะที่ร้อยละ 35.6 เห็นว่าจะช่วยได้ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
 
                  สุดท้ายเมื่อถามถึงปัจจัยที่คิดว่าจะทำให้คนไม่ค่อยอยากออกมาท่องเที่ยวพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ
76.4 เห็นว่าเป็นเรื่องปัญหาราคาน้ำมันแพง
รองลงมาคือ ไม่มีเงินที่จะไปท่องเที่ยวคิดเป็นร้อยละ 75.3 และปัญหา
สินค้าราคาแพงคิดเป็นร้อยละ 63.0
 
 
                  โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 
             1. ข้อคำถาม “คิดอย่างไรกับมติผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 เช่น การสวมหน้ากากอนามัย
                  เปิดสถานบันเทิงถึงตี 2 เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ก่อนจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น”


 
ร้อยละ
คิดว่าจะเกิดผลดี
โดย น่าจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ร้อยละ 49.9
  น่าจะทำให้เกิดการสร้างงานสร้างรายได้ ร้อยละ 48.5
ทำให้ประชาชนได้ใช้ชีวิตแบบปกติ ร้อยละ 41.6
น่าจะทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเพิ่มขึ้น ร้อยละ 39.1
ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับท่องเที่ยวเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ ร้อยละ 38.6
สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ร้อยละ 33.8
ทำให้ได้เห็นหน้าซึ่งกันและกัน เห็นสีหน้าเวลาพูดคุยกัน ร้อยละ 22.7
อื่นๆ ระบุ ไม่มีความเห็น ร้อยละ 0.1
71.8
คิดว่าจะเกิดผลเสีย กลัวว่าจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น
28.2
 
 
             2. มติผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 ก่อนจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น จะทำให้คนอยากออกมา
                  ท่องเที่ยวมากน้อยเพียงใด


 
ร้อยละ
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างมาก ร้อยละ 60.8 และมากที่สุด ร้อยละ 11.2)
72.0
ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 26.3 และน้อยที่สุด ร้อยละ 1.7)
28.0
 
 
             3. ข้อคำถาม “ท่านจะใส่หน้ากากอนามัยตลอดทุกที่ที่ไปหรือไม่ หลังมีมติผ่อนคลาย
                  การสวมหน้ากากอนามัยตามความสมัครใจ”


 
ร้อยละ
คิดว่าจะปฏิบัติตัวเหมือนเดิมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้ง
92.8
คิดว่าจะไม่สวมใส่หน้ากากอนามัยแล้วเพราะการแพร่ระบาดลดลง
7.2
 
 
             4. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ กระตุ้นการท่องเที่ยว เช่น เราเที่ยวด้วยกัน คนละครึ่ง
                  จะช่วยกระตุ้นให้คนออกมาท่องเที่ยวได้มากน้อยเพียงใด


 
ร้อยละ
ค่อนข้างมากถึงมากที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างมาก ร้อยละ 53.0 และมากที่สุด ร้อยละ 11.4)
64.4
ค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด
(โดยแบ่งเป็น ค่อนข้างน้อย ร้อยละ 31.5 และน้อยที่สุด ร้อยละ 4.1)
35.6
 
 
             5. ปัจจัยที่คิดว่าจะทำให้คนไม่ค่อยอยากออกมาท่องเที่ยว (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

 
ร้อยละ
ปัญหาราคาน้ำมันแพง
76.4
ไม่มีเงินที่จะไปท่องเที่ยว
75.3
ปัญหาสินค้าราคาแพง
63.0
ยังกลัวติดโควิด-19 อยู่
41.1
กลัวที่พัก ร้านอาหารราคาสูง
35.2
อื่นๆ ระบุ ไม่มี เก็บเงินไว้ใช้จ่าย ร้อยละ 0.3
0.3
 
รายละเอียดการสำรวจ
วัตถุประสงค์การสำรวจ:
                  1) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อมติผ่อนคลายมาตรการ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย เปิดสถานบันเทิงถึงตี 2
                      เปิดประเทศเต็มรูปแบบ ก่อนโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น
                  2) เพื่อสะท้อนความเห็นต่อมติผ่อนคลายมาตรการ กับการออกมาท่องเที่ยวของประชาชน
                  3) เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยที่คิดว่าจะทำให้คนไม่ค่อยอยากออกมาท่องเที่ยว
 
ประชากรที่สนใจศึกษา:
                  การสำรวจใช้การสุ่มตัวอย่างจากประชาชนทุกภูมิภาคทั่วประเทศ โดยการสุ่มสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์
จากฐานข้อมูลของกรุงเทพโพลล์ ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบง่าย (Simple Random Sampling) แล้วใช้วิธีการถ่วงน้ำหนัก
ด้วยข้อมูลประชากรศาสตร์จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
 
ความคลาดเคลื่อน (Margin of Error):
                  ในการประมาณการขนาดตัวอย่างมีขอบเขตของความคลาดเคลื่อน  3 ที่ระดับความเชื่อมั่น 95%
 
วิธีเก็บรวบรวมข้อมูล:
                  ใช้การสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ (Enumeration by telephone) โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลเป็น
แบบสอบถามที่มีโครงสร้างแน่นอนประกอบด้วยข้อคำถามแบบเลือกตอบ (Check List Nominal) จากนั้นจึงนำแบบสอบถาม
ทุกชุดมาตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ก่อนบันทึกข้อมูลและประมวลผล
 
ระยะเวลาในการเก็บข้อมูล:  : 27 - 30 มิถุนายน 2565
 
วันที่เผยแพร่ผลสำรวจ: 2 กรกฎาคม 2565
 
สรุปข้อมูลพื้นฐานของกลุ่มตัวอย่าง:
ตารางข้อมูลประชากรศาสตร์
 
จำนวน
ร้อยละ
เพศ:
   
             ชาย
599
50.9
             หญิง
578
49.1
รวม
1,177
100.0
อายุ:
 
 
             18 – 30 ปี
100
8.5
             31 – 40 ปี
154
13.1
             41 – 50 ปี
327
27.8
             51 – 60 ปี
324
27.5
             61 ปีขึ้นไป
272
23.1
รวม
1,177
100.0
การศึกษา:
 
 
             ต่ำกว่าปริญญาตรี
674
57.3
             ปริญญาตรี
373
31.7
             สูงกว่าปริญญาตรี
130
11.0
รวม
1,177
100.0
อาชีพ:
   
             ลูกจ้างรัฐบาล
164
13.9
             ลูกจ้างเอกชน
238
20.2
             ค้าขาย/ ทำงานส่วนตัว/ เกษตรกร
463
39.4
             เจ้าของกิจการ/ นายจ้าง
67
5.7
             ทำงานให้ครอบครัว
1
0.1
             พ่อบ้าน / แม่บ้าน / เกษียณอายุ
210
17.8
             นักเรียน/ นักศึกษา
16
1.4
             ว่างงาน
18
1.5
รวม
1,177
100.0
 
ติดตามกรุงเทพโพลล์ผ่าน twitter ได้ที่  twitter bangkokpoll
Download PDF file:  
 
ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (กรุงเทพโพลล์)    โทร. 02-407-3888 ต่อ 2897,2898